อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทรัมป์อ้างว่าเจ้าหน้าที่จีน "ต้องการทำธุรกิจอย่างมาก" เนื่องจาก "เศรษฐกิจของพวกเขากำลังพังทลายลง"
สหรัฐต้องการที่จะลดการขาดดุลทางการค้ากับประเทศจีน และรวมไปถึงเรื่องของการว่างงานในสหรัฐ ซึ่งการเพิ่มกำแพงภาษีในมุมมองทรัมป์คือการเพิ่มการจ้างงานในสหรัฐ
หัวหน้าทิพย์ ออฟฟิศทิพย์ แต่จ่ายเงินจริง เทรนด์ใหม่หนุ่มสาวจีนแสร้งทำงานเพื่อลดแรงกดดันจากสังคม
อนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ แบบแสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน และอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม
ข้อมูลของรัฐบาลระบุว่า ผลผลิตจากโรงงานในจีนได้รับผลกระทบ กิจกรรมการผลิตในเดือน เม.ย. ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.
ที่แน่นอนก็คือหลายประเทศเตรียมพร้อมจะมีมาตรการตอบโต้ตามมาอย่าง แคนาดา และจีนที่ออกมาประกาศตั้งกำแพงภาษีส่วนกลับในทันทีหากมาตรการภาษีสหรัฐประกาศใช้จริง อย่างไรก็ตามในเวลานี้สหรัฐและคู่ค้าก็ยังคงอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองกันอยู่
เศรษฐกิจประเทศเฟื่องฟู จนตลาดหุ้นเติบโต ด้วยความหวังว่า เศรษฐกิจจะดีอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
สงครามการค้าเกิดขึ้นเมื่อประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการกีดกันทางการค้า เช่น การขึ้นภาษีนำเข้า หรือการจำกัดการนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้า เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกของเรา
ที่การกระทำของสิ่งหนึ่ง แม้ดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ หรือไม่เกี่ยวข้องกัน แต่มันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งอื่นเป็นทอด ๆ ต่อกันไป
และในเวลานี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ สงครามการค้า เริ่มการบริหารประเทศสมัยที่สอง และเขาประกาศมาตรการภาษีกับหลายประเทศ รวมทั้ง จีน เเคนาดาและเม็กซิโก
จีนขึ้นภาษีพลังงาน-เครื่องจักรสหรัฐฯ ตอบโต้มาตรการทรัมป์
ระบบนี้ตั้งอยู่บนการต่างตอบแทน – แต่ละประเทศกดภาษีศุลกากรให้อยู่ในอัตราต่ำ แลกกับคำมั่นสัญญาของประเทศคู่ค้าว่าจะกดภาษีศุลกากร ของตัวเอง ให้ต่ำตามไปด้วย ข้อตกลงนี้ได้ผลทางการเมือง เพราะใช้กลุ่มผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมส่งออกในประเทศ ซึ่งอยากได้ภาษีศุลกากรต่ำ มาคัดง้างกับกลุ่มผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมที่อยากได้ภาษีสูง
แต่ช่วงเวลาที่ดีต่อเนื่อง ไม่เคยเกิดขึ้นจริง..
ซึ่งถ้าเราไปดูมูลค่าการส่งออกจากสหรัฐฯ ไปยังยุโรป